คงสภาพการมีญูนุบจนถึงอะซานซุบฮฺ

คงสภาพการมีญูนุบจนถึงอะซานซุบฮฺ

คงสภาพการมีญูนุบจนถึงอะซานซุบฮฺ
101. บุคคลที่มีญูนุบในเดือนรอมฎอน ต้องฆุสลฺญินาบัตก่อนอะซานซุบฮฺ ถ้าตั้งใจไม่ฆุสลฺจนถึงอะซานซุบฮฺ ศีลอดบาฏิล ซึ่งกฎข้อนี้มีผลบังคับใช้ กับการกะฎอศีลอดเดือนรอมฎอนด้วย – แม้ว่าจะไม่ตั้งใจก็ตาม
102. ถ้ามีญูนุบในต้องกลางคืนเดือนรอมฎอน แต่ไม่ได้ฆุสลฺจนถึงอะซานซุบฮฺ โดยไม่ได้เจตนา เช่น นอนหลับฝันเปืยก และได้นอนหลับจนเลยเวลาอะซานซุบฮฺ ศีลอดของเขาถูกต้อง
103. ผู้ที่มีญูนุบในเดือนรอมฎอนขณะตื่น หรือมีญูนุบขณะนอนหลับ แล้วได้ตื่น ซึ่งรู้ว่าถ้านอนหลับจนถึงอะซานซุบฮฺ ก็ไม่ตื่นทำฆุสลฺ ไม่อนุญาตให้นอนก่อนทำฆุสลฺ, ถ้านอนหลับจนถึงอะซานซุบฮฺก็ยังไม่ตื่นทำฆุสลฺ ศีลอดบาฏิล, แต่ถ้าคาดว่าถ้านอนหลับจะตื่นทำฆุสลฺก่อนอะซานซุบฮฺ และตัดสินใจว่าหลังจากตื่นจะฆุสลฺ แต่นอนหลับไม่ตื่น ศีลอดถูกต้อง, แต่ถ้านอนหลับอีกครั้ง จนถึงอะซานซุบก็ไม่ตื่น ต้องกะฎอศีลอดวันนั้นด้วย
104. ผู้ที่มีหน้าที่ต้องฆุสลฺ ในเวลากลางคืนเดือนรอมฎอน แต่เนื่องจากเวลาเหลือน้อย หรือน้ำเป็นอันตราย หรือมีสาเหตุอื่นที่คล้ายคลึงกัน ไม่สามารถฆุสลฺได้ ฉะนั้น ต้องตะยัมมุมแทนฆุสลฺ
105. ขณะถือศีลอดได้นอนหลับจนน้ำอสุจิเคลื่อนออกมา ศีลอดของเขาไม่บาฏิล
106. ผู้ที่ถือศีลอดในเดือนรอมฎอน หรือวันอื่นที่ถือศีลอด ขณะนอนหลับในเวลากลางวัน ได้ฝันจนน้ำอสุจิเคลื่อนออกมา หลังจากตื่น ไม่เป็นวาญิบต้องรีบฆุสลฺ
107. หญิงที่หมดเหฎ ต้องฆุสลฺ ทำนองเดียวกันหญิงที่หมดนิฟาส (โลหิตหลังการคลอดบุตร) เป็นวาญิบต้องฆุสลฺ ถ้าปล่อยเวลาให้ผ่านไป โดยไม่ได้ฆุสลฺจนถึงอะซานซุบฮฺ เดือนรอมฎอน ศีลอดบาฏิล
108. หญิงขณะถือศีลอด ได้มีเหฎ หรือคลอดบุตร ศีลอดบาฏิล
ตั้งใจให้มีญูนุบตอนกลางคืนเดือนรอมฎอน ทั้งที่ไม่อาจฆุสลฺได้
109. ถ้าไม่มีน้ำอยู่ในครอบครอง หรือมีเหตุชัรอียฺอื่น ที่นอกเหนือจากมีเวลาน้อย ทำให้ไม่สามารถฆุสลฺญินาบัตได้ อนุญาตให้มีญูนุบโดยตั้งใจด้วยวิธีฮะลาล ตอนกลางคืนเดือนรอมฎอนได้หรือไม่?
คำตอบ ถ้าหน้าที่ของเขาต้องตะยัมมุม ซึ่งหลังจากมีญูนุบ ถ้ามีเวลาพอที่จะตะยัมมุม อนุญาตให้กระทำเช่นนั้นได้
ตะยัมมุมในช่วงเวลาเหลือน้อย ด้วยการตั้งใจละทิ้งฆุสลฺ
110. ผู้ที่ตื่นนอนก่อนอะซานซุบฮฺ ด้วยสภาพที่มีญูนุบ เขาสามารถไม่ฆุสลฺจนใกล้เวลาอะซานซุบฮฺ แล้วตะยัมมุมแทนได้หรือไม่?
คำตอบ ถ้าปล่อยเลาฆุสลฺให้ผ่านไปจนเหลือเวลาน้อย ถือว่าเป็นการทำกุนาฮฺ ในกรณีนี้ก่อนอะซานซุบฮฺต้องตะยัมมุม ศีลอดของเขาถูกต้อง
111. ผู้ที่มีญูนุบในเดือนรอมฎอน ตั้งใจไม่ฆุสลฺ จนกระทั่งเวลาเหลือน้อย แล้วได้ตะยัมมุมแทน ศีลอดของเขาจะเป็นอย่างไร?
คำตอบ ศีลอดของเขาถูกต้อง แม้ว่าตามคำถามที่ถามมา เป็นทำกุนาฮฺก็ตาม
ผู้ถือศีลอดลืมฆุสลฺญินาบัต ก่อนอะซานซุบฮฺ
112. ถ้าลืมฆุสลฺญินาบัตสำหรับศีลอดเดือนรอมฎอน หรือศีลอดอื่น และนึกขึ้นได้ตอนกลางวัน กฏเกณฑ์เป็นอย่างไร?
คำตอบ ถ้าลืมฆุสลฺญินาบัตตอนกลางคืนเดือนรอมฎอน จนถึงอะซานซุบฮฺ และได้เขาสู่เวลาซุบฮฺด้วยสภาพมีญูนุบ ศีลอดบาฏิล และอิฮฺติยาฏกะฎอศีลอดเดือนรอมฎอน ก็อยู่ในกฏเดียวกัน แต่สำหรับศีลอดอื่น ไม่บาฏิล
ลืมการนอนหลับฝันจนน้ำอสุจิเคลื่อน ก่อนอะซานซุบ
113. ผู้ที่นอนหลับฝันจนน้ำอสุจิเคลื่อนออกมา ในเดือนรอมฎอน และตื่นขึ้นก่อนอะซานซุบฮฺ แต่ไม่รู้ตัวว่ามีญูนุบ และได้นอนหลับอีกครั้ง โดยตื่นขึ้นระหว่างอะซานซุบฮฺ และรู้ตัวว่ามีญูนุบ ซึ่งเขามั่นใจว่า มีญูนุบก่อนอะซานซุบฮฺแน่นอน ศีลอดของเขาจะเป็นอย่างไร?
คำตอบ ถ้าก่อนอะซานซุบฮฺ ไม่รู้ตัวว่ามีญูนุบ ศีลอดถูกต้อง
สงสัยว่านอนหลับฝันจนน้ำอสุจิเคลื่อน ตอนกลางคืนเดือนรอมฎอน
114. ถ้าในเวลากลางคืนเดือนรอมฎอน ก่อนอะซานซุบฮฺสงสัยว่า ตนนอนหลับฝันจนน้ำอสุจิเคลื่อนออกมาหรือไม่ แต่ไม่สนใจต่อความสงสัย และได้นอนหลับไปอีกครั้ง และตื่นขึ้นหลังอะซานซุบฮฺ ซึ่งรู้ว่าตนมีญูนุบก่อนอะซานซุบฮฺ กฏเกณฑ์เป็นอย่างไร?
คำตอบ ถ้าหลังจากตื่นนอนครั้งแรก ไม่เห็นร่องรอยการมีญูนุบในตัว เพียงแค่คาดว่าอาจจะมีแต่ก็ไม่พบสิ่งใด และได้นอนหลับจนถึงอะซานซุบฮฺ ศีลอดถูกต้อง แม้ว่าหลังจากนั้นจะรู้ว่าน้ำอสุจิได้เคลื่อนออกมาก่อนอะซานซุบฮฺก็ตาม
การถือศีลอดด้วยการคงสภาพการมีญูนุบจนถึงอะซานซุบฮฺ
115. ถ้าผู้ที่มีอุปสรรคปัญหาบางประการ ได้คงสภาพการมีญูนุบจนถึงอะซานซุบฮฺ อนุญาตให้ถือศีลอดวันนั้นได้หรือไม่?
คำตอบ ถ้าเป็นเดือนอื่นที่ไม่ใช่เดือนรอมฎอน หรือศีลอดกะฎอเดือนรอมฎอน ไม่เป็นไร แต่สำหรับศีลอดเดือนรอมฎอน มีรายละเอียดดังนี้ ถ้าไม่สามารถฆุสลฺได้ เป็นวาญิบต้องตะยัมมุมแทน แต่ถ้าไม่ตะยัมมุม ศีลอดไม่ถูกต้อง
116. อนุญาตให้ผู้ที่มีญูนุบ ฆุสลฺญินาบัตหลังพระอาทิตย์ขึ้น เพื่อถือศีลอดกะฎอ หรือศีลอดมุสตะฮับได้หรือไม่?
คำตอบ ถ้าตั้งใจคงสภาพการมีญูนุบจนถึงอะซานซุบฮฺ ศีลอดเดือนรอมฎอน และศีลอดกะฎอเดือนรอมฎอน ไม่ถูกต้อง แต่สำหรับศีลอดอื่นโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศีลอดมุสตะฮับ ถือว่าถูกต้อง
การนอบหลับของผู้มีญูนุบจนถึงอะซานซุบฮฺ
117. ถ้านอนหลับในตอนกลางคืนเดือนรอมฎอน และตื่นก่อนอะซานซุบฮฺ พบว่าตนมีญูนุบ และนอนหลับอีกครั้งก่อนอะซานซุบฮฺ ซึ่งคาดว่าจะตื่นขึ้นทำฆุสลฺ จึงได้นอนหลับไปจนกระทั่งหลังพระอาทิตย์ขึ้นก็ยังไม่ตื่น และปล่อยให้ฆุสลฺล่าช้าออกไปจนถึงอะซานซุฮฺร จึงได้ฆุสลฺหลังอะซานซุฮรฺ พร้อมกับนมาซซุฮฺกับอัศรฺ ศีลอดของเขาจะเป็นอย่างไร?
คำตอบ ตามคำถามที่ถามมา การนอนครั้งที่ 1 ศีลอดถูกต้อง แต่ถ้าได้นอนหลับอีกครั้ง จนกระทั่งอะซานซุบฮฺก็ไม่ตื่น จำเป็นต้องกะฎอศีลอดวันนั้น
118. เมื่อตอนสะฮัรเดือนรอมฎอนปีที่แล้ว ฆุสลฺญินาบัตเป็นวาญิบสำหรับข้าพเจ้า เมื่อตื่นขึ้นมาได้บอกกับตัวเองว่า รออีกนิดเวลาเหลือน้อยแล้วค่อยตะยัมมุมแทนฆุสลฺ แต่ข้าพเจ้าได้นอนหลับ จนกระทั่งอะซานซุบฮฺก็ยังไม่ตื่น ข้าพเจ้าต้องทำอย่างไร?
คำตอบ แม้ว่าตั้งใจจะปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเวลาที่เหลือน้อย แต่ว่าการกะฎอศีลอดเป็นวาญิบสำหรับท่าน แน่นอน ถ้าหน้าที่ของท่านต้องตะยัมมุม และตัดสินใจว่าจะตะยัมมุมก่อนอะซานซุบฮฺ แต่ได้นอนหลับไป ฉะนั้น การนอนหลับครั้งแรก ศีลอดถูกต้อง
ถึงเวลาอะซานขณะฆุสลฺญินาบัต
119. ถ้าผู้มีญูนุบตื่นนอนใกล้อะซานซุบฮฺ และได้ฆุสลฺ แต่ก่อนที่จะฆุสลฺเสร็จถึงเวลาฆุสลฺพอดี ศีลอดของเขาจะมีกฏเป็นอย่างไร?
คำตอบ ถ้ารู้หรือคาดว่ามีเวลาพอที่จะฆุสลฺ จึงได้เริ่มฆุสลฺ ถือว่าเพียงพอ และศีลอดถูกต้อง
120. ถ้าก่อนอะซานซุบฮฺ ข้าพเจ้าได้เริ่มฆุสลฺ แต่ระหว่างฆุสลฺได้เวลาอะซานพอดี (เช่น ขณะล้างศีรษะและลำคอ หรือขณะล้างทางด้านขวา ได้เริ่มอะซานซุบฮฺ) ศีลอดถูกต้องหรือไม่?
คำตอบ ถ้ามั่นใจว่ามีเวลาพอสำหรับฆุสลฺ ศีลอดถูกต้อง
ไม่ได้ฆุสลฺญินาบัต และคงสภาพการมีญูนุบ เนื่องจากอาย
121. พวกเราอาศัยอยู่ในแถบพื้นที่ ที่มีอากาศหนาวเย็น ไม่มีห้องอาบน้ำ และไม่มีที่สำหรับอาบน้ำ ในเดือนรอมฎอนพวกเราตื่นขึ้นขณะมีญูนุบ ขณะที่การฆุสลฺของเยาวชนในยามดึก ต่อหน้าประชาชน ขณะที่ในมือถือถังน้ำ หรือยืนข้างบ่อน้ำถือเป็นเรื่องหน้าอับอายอย่างยิ่ง ประกอบกับน้ำในเวลานั้นก็เย็นมาก หน้าที่ของเรากับศีลอดคืออะไร? อนุญาตให้ตะยัมมุมหรือไม่? กรณีที่ไม่ได้ฆุสลฺ แล้วการละศีลอดในวันนั้นจะมีกฏเกณฑ์อย่างไร?
คำตอบ ความยากลำบาก และความอับอายของเยาวชนในการฆุสลฺกลางดึก ไม่นับว่าเป็นอุปสรรคทางชัรอฺ ทว่าตราบที่การฆุสลฺมิใช่ความยากลำบาก หรือมิได้เป็นสาเหตุทำให้เกิดอันตรายแก่ผู้ปฏิบัติ ดังนั้น การฆุสลฺเท่าที่สามารถทำได้ในทุกกรณี เป็นวาญิบ แต่ในกรณีที่ยากลำบาก หรือเป็นอันตราย ต้องตะยัมมุมก่อนอะซานซุบฮฺ และให้ตะยัมมุมแทนฆุสลฺก่อนอะซานซุบฮฺ ศีลอดถูกต้อง แต่ถ้าไม่ตะยัมมุม ศีลอดบาฏิล และเป็นวาญิบต้องอิมซาก (อิมซาก การหลีกเลี่ยง ไม่กินไม่ดื่ม) ตลอดทั้งวัน
122. ผู้ที่เป็นแขกในเดือนรอมฎอน และคืนนั้นได้นอนค้าง ณ ที่บ้านหลังดังกล่าว และตอนกลางคืนได้มีญูนุบ แต่เนื่องจากตนเป็นแขก และไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยน และเพื่อหลีกเลี่ยงการถือศีลอด จึงตัดสินใจว่าหลังจากพระอาทิตย์ขึ้นจะเดินทางไกล และเมื่อพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว ได้เดินทางไกลโดยมิได้รับประทานสิ่งใด คำถามมีอยู่ว่า การเนียตเดินทาง ทำให้วาญิบกะฟาเราะฮฺหมดไปจากเขาหรือไม่?
คำตอบ ถ้าตื่นขึ้นมาในสภาพที่มีญูนุบ และรู้ตัวว่าตนมีญูนุบ โดยที่ก่อนอะซานซุบฮฺ ไม่ได้ฆุสลฺ หรือตะยัมมุม ซึ่งการตั้งใจเดินทางในเวลากลางคืน หรือกลางวัน ไม่เพียงพอต่อการทำให้วาญิบกะฟาเราะฮฺหมดไป
123. ข้าพเจ้าอยู่ที่บ้านของญาติคนหนึ่ง ในบางวันของเดือนรอมฎอน แต่เนื่องจากเป็นไข้หวัด และเขินอาย ข้าพเจ้าจำเป็นต้องตะยัมมุมแทนฆุสลฺวาญิบ และจนเกือบถึงซุฮฺร ก็ยังไม่ได้ฆุสลฺ ซึ่งข้าพเจ้าทำซ้ำเช่นนี้อยู่สองสามวัน ศีลอดของข้าพเจ้าในวันเหล่านั้นถูกต้องหรือไม่?
คำตอบ การไม่ฆุสลฺญินาบัตก่อนอะซานซุบฮฺ ในวันที่ต้องการถือศีลอด แต่ได้ตะยัมมุมแทนฆุสลฺ เนื่องจากมีอุปสรรคทางชัรอฺ หรือตะยัมมุมในตอนหลังในช่วงเวลาเหลือน้อย ไม่ทำให้ศีลอดบาฏิล ศีลอดถูกต้อง แต่ถ้านอกเหนือจากกรณีนี้ ศีลอดในวันนั้นบาฏิล

การไม่รู้ว่าเป็นวาญิบ และวิธีฆุสลฺญินาบัต
ถือศีลอดโดยไม่รู้ว่าฆุสลฺเป็นวาญิบ และวิธีฆุสลฺ
124. ผู้ที่มีอายุครบวัยบรรลุนิติภาวะตามศาสนบัญญัติ แต่ไม่รู้ว่าฆุสลฺเป็นวาญิบ และไม่รู้ขั้นตอนการฆุสลฺ แต่หลังจากเวลาผ่านไปประมาณ 10 ปีเพิ่งเข้าใจปัญหาเรื่องการตักลีด และรู้ว่าฆุสลฺเป็นวาญิบสำหรับตน กรณีนี้กฏเกณฑ์เป็นอย่างไร? และหน้าที่ของเขาเกี่ยวกับการกะฎอนมาซ และศีลอดที่ผ่านมาเป็นอย่างไร?
คำตอบ การกะฎอนมาซที่นมาซในช่วงมีญูนุบ เป็นวาญิบ ศีลอดก็เช่นเดียวกัน ถ้ารู้ตัวว่าตนมีญูนุบ แต่ไม่รู้ว่าฆุสลฺญินาบัตเป็นวาญิบสำหรับศีลอด เป็นวาญิบต้องกะฎอ
125. ผู้ที่ถือศีลอดสองสามวันขณะที่ยังมีญูนุบ โดยไม่รู้ว่าความสะอาดจากญูนุบคือ เงื่อนไขของความถูกต้องของศีลดอด การกะฟาเราะฮฺศีลอดที่ถือในช่วงที่มีญูนุบ เป็นวาญิบหรือไม่? หรือให้กะฎอเพียงอย่างเดียวก็พอ?
คำตอบ สำหรับคำถามที่ถามมานั้น ให้กะฎอเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอ
126. เนื่องจากความไม่รู้ วัยรุ่นในช่วงอายุ 14 ปี หรือมากกว่านั้น นิยมสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง จนน้ำอสุจิเคลื่อนออกมา และไม่รู้ว่าการเคลี่อนของน้ำอสุจิเป็นสาเหตุของ ญินาบัต ซึ่งเป็นวาญิบต้องฆุสลฺ สำหรับนมาซและศีลอด หน้าที่ของเขาคืออะไร? และช่วงที่เขาสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง จนน้ำอสุจิเคลื่อนออกมา ฆุสลฺเป็นวาญิบสำหรับเขาหรือไม่? นมาซและศีลอดที่กระทำในช่วงมีญูนุบ จนถึงปัจจุบันบาฏิลและวาญิบต้องกะฎอหรือไม่?
คำตอบ ทุกครั้งที่น้ำอสุจิเคลื่อนออกมา ตราบจนถึงปัจจุบัน ถ้ายังไม่ได้ฆุสลฺ ให้ฆุสลฺญินาบัตเพียงครั้งเดียว ถือว่าเพียงพอ และทุกนมาซที่มั่นใจว่านมาซในช่วงมีญูนุบ ให้กะฎอทั้งหมด ส่วนอมัลที่ปฏิบัติในตอนกลางคืนของเดือนรอมฎอน ถ้าไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับญินาบัต ไม่ต้องกะฎอศีลอด ถือว่าศีลอดถูกต้อง แต่ถ้ารู้เรื่องกรเคลื่อนออกมาของน้ำอสุจิ และญินาบัต แต่ไม่รู้ว่าความถูกต้องของศีลอด ต้องฆุสลฺญินาบัตด้วย ดังนั้น ให้กะฎอ ศีลอดทั้งหมดที่ถือในช่วงที่มีญูนุบ
127. ถ้าการมีเพศสัมพันธ์คือ สัญญลักษณ์ของการย่างเข้าสู่วัยบรรลุนิติภาวะตามศาสนบัญญัติ ซึ่งถ้าได้ปฏิบัติดังกล่าว ทำให้หน้าที่ทางชัรอียฺเป็นวาญิบหรือไม่? และถ้าผู้ไม่รู้เรื่องนี้ปล่อยเวลาให้ผ่านไปหลายปี ฆุสลฺญินาบัตเป็นวาญิบหรือไม่? และอมัลต่างๆ เช่น นมาซ และศีลอด ที่มีความสะอาดเป็นเงื่อนไข ซึ่งได้ปฏิบัติก่อนที่จะฆุสลฺญินาบัต อมัลเหล่านั้นบาฏิล และเป็นวาญิบต้องกะฎอหรือไม่?
คำตอบ การมีเพศสัมพันธ์เพียงอย่างเดียว โดยที่น้ำอสุจิไม่ได้เคลื่อนออกมา มิใช่สัญลัษณ์ของการย่างเข้าสู่วัยบรรลุนิติภาวะตามศาสนบัญญัติ แต่เป็นสาเหตุของญินาบัต ซึ่งเมื่อถึงวัยบาลิฆ (บาลิฆ บรรลุภาวะตามศาสนบัญญัติ) วาญิบต้องฆุสลฺญินาบัต และตราบเท่าที่ยังไม่มีสัญลักษณ์ของบาลิฆอย่างหนึ่งอย่างใด ปรากฏออกมา โดยชัรอียฺแล้วไม่ถือว่าเข้าวัยบาลิฆ และไม่มีหน้าที่ทางชัรอียฺแต่อย่างใด แต่ถ้าผู้ที่มีญูนุบตั้งแต่เด็ก และหลังจากย่างเข้าสู่วัยบาลิฆ เขานมาซและถือศีลอดโดยไม่ได้ฆุสลฺญินาบัต เป็นวาญิบต้องกะฎอนมาซต่างๆ เหล่านั้น ส่วนกรณีที่ไม่รู้เรื่องญินาบัต ไม่เป็นวาญิบต้องกะฎอศีลอด
ถือศีลอดด้วยฆุสลฺบาฏิล
128. ข้าพเจ้าฆุสลฺญินาบัติตามขั้นตอนดังนี้ อันดับแรกฆุสลฺทางด้านขวามือ หลังจากนั้นฆุสลฺศีรษะ และร่างกายทางด้านซ้าย ซึ่งข้าพเจ้าเองเฉยเมยกับสอบถาม และการค้นคว้าเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว นมาซและศีลอดของข้าพเจ้ามีกฎเกณฑ์เป็นอย่างไร?
คำตอบ ขั้นตอนการฆุสลฺตามที่กล่าวมา บาฏิล ไม่อาจขจัดญินาบัตได้ ด้วยเหตุนี้ นมาซที่นมาซด้วยฆุลฺดังกล่าว บาฏิล และเป็นวาญิบต้องกะฎอ ส่วนศีลอดที่ถือโดยมั่นใจว่า การฆุสลฺตามกล่าวมานั้นถูกต้องแล้ว และท่านก็คงสภาพการมีญูนุบโดยไม่ตั้งใจ ศีลอดถูกต้อง
129.ผู้ที่ไม่รู้เรื่องฮุกมฺ (กฎเกณฑ์) ทางชัรอียฺ จึงไม่ได้ฆุสลฺไปตามขั้นตอน นมาซและศีลอดของเขาจะเป็นอย่างไร?
คำตอบ ถ้าฆุสลฺในลักษณะที่ว่าตามชัรอียฺถือว่าบาฏิล นมาซต่างๆ ที่ปฏิบัติด้วยสภาพที่มีฮะดัษใหญ่ (ฮะดัษใหญ่ หมายถึงการมีญูนูบ หรือมีรอบเดือน ซึ่งหลังจากหมดแล้ว ต้องฆุสลฺ หมายถึงการอาบน้ำตามบทบัญญัติ) เป็นวาญิบต้องกะฎอ ส่วนศีลอด ถ้าในช่วงเวลานั้นมั่นใจว่าฆุสลฺของตนถูกต้อง ถือว่าถูกต้อง
130. ประมาณ 2 ปีที่แล้วหนังสือริซาละฮฺของบรรดามัรญิอฺหลายท่าน ฯพณฯท่านได้กล่าวถึงเรื่องการฆุสลฺ โดยให้ปฏิบัติไปตามขั้นตอน ระหว่างซีกซ้ายและซีกขวา ข้าพเจ้าเข้าใจว่าการปฏิบัติไปตามขั้นตอนนั้น เป็นอิฮฺติยากวาญิบ จึงได้ย้อนกลับไปหามัรญิอฺท่านอื่น ที่มีทัศนะว่าการฆุสลฺไปตามขั้นตอน เป็นอิฮฺติยาฏมุสตะฮับ บัดนี้ข้าพเจ้าเข้าใจคำวินิจฉัยของฯพณฯท่านแล้ว เรื่องการปฏิบัติไปตามขั้นตอน เป็นวาญิบ ดังนั้น นมาซและศีลอดของข้าพเจ้าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจะเป็นอย่างไร?
คำตอบ นมาซและศีลอดที่ผ่านมา ถือว่าถูกต้อง
ถือศีลอดด้วยความมั่นใจว่าหนึ่งในฆุสลฺต่างๆ บาฏิล
131. ถ้าบุคคลหนึ่งในช่วงเดือนรอมฎอน ได้ฆุสลฺญินาบัต 3 ครั้ง เช่น วันที่ 20, 25 และ 27 แต่หลังจากนั้นมั่นใจว่าหนึ่งในฆุสลฺนั้นบาฏิล นมาซและศีลอดของเขากฏเกณฑ์เป็นอย่างไร?
คำตอบ ศีลอดของเขาถูกต้อง แต่ให้อิฮฺติยาฏ สำหรับนมาซต่างๆ ที่มั่นใจว่าหน้าที่ของตนยังไม่ได้หมดไปจากความรับผิดชอบ วาญิบต้องกะฎอ
ลอดด้วยฆุสลฺที่ทำกับน้ำปนเปื้อนนะญิส
132. ถ้าบุคคลหนึ่งในช่วงเดือนรอมฎอน ได้ฆุสลฺด้วยน้ำปนเปื้อนนะญิส และหลังจากผ่าน 1 สัปดาห์ เพิ่งรู้ว่าน้ำนั้นปนเปื้อนนะญิส นมาซและศีลอดในช่วงเวลานั้นจะเป็นอย่างไร?
คำตอบ นมาซบาฏิล และเป็นวาญิบต้องกะฎอ ส่วนศีลอดถือว่าถูกต้อง
หน้าที่ของผู้มีญุนุบ ที่คาดว่าน้ำอสุจิเคลื่อนออกมาขณะถือศีลอด
133.ถ้าบุคคลหนึ่งป่วยเป็นโรคปัสสาวะกระปิดกระปอย โดยที่หยดปัสสาวะจะไหลออกมาอย่างต่อเนื่องระยะหนึ่ง หมายถึงหลังปัสสาวะเสร็จ ประมาณ 1 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้น จะมีหยดปัสสาวะไหลออกมา และบางคืนร่างกายของเขามีญูนุบ ซึ่งบางครั้งจะตื่นนอนก่อนอะซานซุบฮฺ 1 ชั่วโมง และคาดว่าหลังจากนั้นน้ำอสุจิจะไหลออกมาพร้อมกับหยดปัสสาวะ ฉะนั้น ศีลอดของเขาจะเป็นอย่างไร? และหน้าที่สำหรับเขาที่กล่าวว่า ต้องเข้าสู่เวลาด้วยร่างกายที่สะอาด จะเป็นอย่างไร?
คำตอบ ถ้าฆุสลฺหรือตะยัมมุนแทนฆุสลฺ ทำก่อนอะซานซุบฮฺ ศีลอดถูกต้อง แม้ว่าหลังจากนั้นจะมีหยดน้ำอสุจิเคลื่อนออกมาโดยไม่ตั้งใจก็ตาม
134. ถ้าผู้ถือศีลอดตั้งใจกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยมีน้ำอสุจิเคลื่อนออกมา ศีลอดบาฏิล
กะฟาเราะฮฺการสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองขณะถือศีลอด
135. ถ้าผู้ปฏิบัติรู้ว่าการสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง (อิสติมนา) ศีลอดบาฏิล แต่ตั้งใจกระทำสิ่งนั้น เป็นวาญิบต้องจ่ายกะฟาเราะฮฺรวมหรือไม่?
คำตอบ ถ้าตั้งใจสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง และมีน้ำอสุจิเคลื่อนออกมา ไม่เป็นวาญิบต้องจ่ายกะฟาเราะฮฺรวม แต่อิฮฺติยาฎมุสตะฮับ ให้จ่ายกะฟาเราะฮฺรวม
เคยชินต่อการสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง และกฎเกณฑ์ของศีลอด
136. บุคคลหนึ่งเคยชินต่อการสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง มานานหลายปี ทั้งในเดือนรอมฎอนและเดือนอื่น นมาซและศีลอดของเขามีกฏเกณฑ์เป็นอย่างไร?
คำตอบ การสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง เป็นฮะรอม ถ้ามีน้ำอสุจิเคลื่อนออกมา เป็นสาเหตุให้ต้องฆุสลฺญินาบัต และถ้ากระทำขณะถือศีลอด ในช่วงเดือนรอมฎอน อยู่ในกฎของการตั้งใจละศีลอดด้วยวิธีฮะรอม ถ้านมาซและถือศีลอดในสภาพที่มีญูนุบ โดยไม่ได้ฆุสลฺหรือตะยัมมุม ทั้งนมาซและศีลอดบาฏิล และเป็นวาญิบต้องกะฎอ
ญินาบัตของผู้ถือศีลอด ด้วยการมองไปยังสิ่งที่ก่อให้เกิดความต้องการ
137. ผู้ที่ถือศีลอดในเดือนรอมฎอน ได้มองไปยังสิ่งที่ก่อให้เกิดความต้องการทางเพศอย่างรุนแรง และมีญูนุบ การกระทำเช่นนี้เป็นเหตุให้ศีลอดบาฏิลหรือไม่?
คำตอบ ถ้าการมองของเขามีเจตนาให้น้ำอสุจิเคลื่อนออกมา หรือรู้ว่าถ้ามองไปยังสิ่งนั้นแล้ว จะทำให้มีญูนุบ หรือความเคยชินของเขาเป็นเช่นนั้น ซึ่งเขาตั้งใจมองและมีญูนุบ ถือว่าอยู่ในกฎของการตั้งใจทำให้มีญูนุบ กล่าวคือต้องกะฎอและจ่ายกะฟาเระฮฺด้วย
ญินาบัตของผู้ถือศีลอด เนื่องจากคุยกับนามะฮฺรัม
138. ช่วงเดือนรอมฎอน ไม่มีร่องรอยของสื่อที่จะนำไปสู่ การสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง เพียงแค่คุยโทรศัพท์กับผู้หญิง ที่สามารถแต่งงานกันได้ ทำให้ข้าพเจ้าเกิดความรู้สึก และมีน้ำอสุจิเคลื่อนออกมา ทั้งที่การคุยโทรศัพท์กับหญิงนั้น มิได้มีเจตนาเพื่อความต้องการทางเพศ ศีลอดของข้าพเจ้าบาฏิลหรือไม่? กรณีที่บาฏิล เป็นวาญิบต้องจ่ายกะฟาเราะฮฺด้วยหรือไม่?
คำตอบ ถ้าน้ำอสุจิที่เคลื่อนออกมา เป็นผลมาจากการคุยโทรศัพท์กับหญิง ซึ่งไม่ใช่อุปนิสัยของท่านก่อนหน้านี้ อีกทั้งน้ำอสุจิเคลื่อนออกมาโดยไม่ได้เจตนา เหล่านี้ไม่เป็นสาเหตุทำให้ศีลอดบาฏิล และไม่มีสิ่งใดเป็นวาญิบสำหรับท่าน
นอนหลับฝันขณะถือศีลอด
139. การนอนหลับและฝันตอนกลางวัน (น้ำอสุจิเคลื่อนออกมาขณะนอนหลับ) ไม่เป็นสาเหตุทำให้ศีลอดบาฏิล และทุกครั้งที่ผู้ถือศีลอดทราบว่า ถ้านอนตอนกลางวันแล้ว จะทำให้ฝันจนมีน้ำอสุจิเคลื่อนออกมา ไม่จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการนอนหลับ
140. ขณะถือศีลอด ถ้าน้ำอสุจิจะเคลื่อนออกมา แต่ตื่นขึ้นก่อน ไม่เป็นวาญิบที่จะต้องกลั้นมิให้น้ำอสุจิเคลื่อนออกมา
141. ผู้ที่ถือศีลอดเดือนรอมฎอน หลังจากนมาซซุบฮฺ หรือนมาซซุฮฺร ได้นอนหลับ และขณะนอนหลับได้ฝันจนน้ำอสุจิเคลื่อนออกมา โดยไม่ได้เจตนา หน้าที่ของเขาคืออะไร? ศีลอดของเขาบาฏิลหรือไม่?
คำตอบ ศีลอดของเขาถูกต้อง
ผู้ถือศีลอดนอนหลับฝันจนน้ำอสุจิเคลื่อนออกมา และตื่นหลังจากอะซานซุบฮฺ
142. ถ้าบุคคลหนึ่งนอนหลับก่อน หรือหลังอะซานซุบฮฺมีญูนุบ และได้ตื่นนอนหลังอะซานซุบฮฺ ดังนั้น เขามีเวลาสำหรับฆุสลฺ เหลือมากน้อยเพียงใด?
คำตอบ ตามคำถามที่ถามมานั้น ญินาบัต ไม่อาจทำให้ศิลอดวันนั้นเสียหายได้ แต่เป็นวาญิบต้องฆุสลฺสำหรับนมาซ และสามารถปล่อยเวลาฆุสลฺให้ล่าออกไปจนถึงเวลานมาซได้
นอนหลับฝันจนน้ำอสุจิเคลื่อนออกมา หลังจากอะซานซุบฮฺ
143. ถ้าหลังนมาซซุบฮฺเดือนรอมฎอน นอนหลับฝันจนน้ำอสุจิเคลื่อนออกมา จะต้องทำอย่างไร?
คำตอบ ศีลอดถูกต้อง และต้องฆุสลฺญินาบัต เพื่อนมาซซุฮรฺ