Languages فارسی فارسى درى English اردو Azəri Bahasa Indonesia پښتو français ไทย Türkçe Hausa Kurdî Kiswahili Deutsche РУС Fulfulde Mandingue
Scroll down
คำวินิจฉัยอายะตุลลออฺ อัลอุซมา ซัยยิดอะลี คอเมเนอี

สิ่งที่เป็นสาเหตุให้ศีลอดบาฏิล

2017/06/24

สิ่งที่เป็นสาเหตุให้ศีลอดบาฏิล

สิ่งที่เป็นสาเหตุให้ศีลอดบาฏิล
กรณีที่ทำให้ศีลอดบาฏิล (มุบฏิลลาต)
74. มี 9 ประการที่ทำให้ศีลอดบาฏิล คือ
1. การกินการดื่ม
2. การร่วมเพศ
3. อิสติมนาอฺ หมายถึงการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง จนน้ำอสุจิเคลื่อนออกมา
4. การพูดความเท็จที่เกี่ยวข้องกับ อัลลอฮฺ (ซบ.) นบี หรือตัวแทนของนบี อะลัยฮิมุสสลาม
5. การปล่อยให้ฝุนละอองที่หนาทึบเข้าไปในลำคอ
6. การดำน้ำที่ศีรษะจมอยู่ใต้น้ำทั้งหมด
7. คงสภาพการมีญูนุบ เหฎ หรือนิฟาส (ญูนุบ สภาพร่างกายหลังจากที่มีน้ำ น้ำอสุจิ เคลื่อนออกมา หรือหลังจากการร่วมเพศ, เหฎ ระดู ประจำเดือน, นิฟาส โลหิตหลังคลอดบุตร) จนถึงอะซานซุบฮฺ
8. การสวนทวารด้วยของเหลว
9. การตั้งใจอาเจียน
ซึ่งเงื่อนไขของ 9 ประการดังกล่าว จะกล่าวอธิบายต่อไป (ส่วนข้อ 4 – 6 อิฮฺติยาฏวาญิบ ถือเป็นสิ่งที่ทำให้ศีลอดบาฏิล)

การกินและการดื่ม
เกณฑ์ของการกินและการดื่ม
75. ถ้าผู้ถือศีลอดรู้ หรือตั้งใจกินหรือดื่มบางสิ่งบางอย่าง ศีลอดบาฏิล ไม่ว่าสิ่งที่กินหรือดื่มนั้นจะเป็นอาหารหรือเครื่องดื่มปกติทั่ว ๆ ไป หรือมิใช่ปกติ เช่น กระดาษ เศษผ้า หรือสิ่งที่คล้ายคลึงกัน ไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ตาม เช่น หยดน้ำที่เล็กมาก หรือเศษโรตีชิ้นเล็กๆ
ละศีลอดเนื่องจากการแข่งขัน
76. เนื่องจากการแข่งขันฟุตบอล เป็นเหตุให้หิว และกระหายน้ำมาก ดังนั้น สามารถละศีลอดได้หรือไม่?
คำตอบ เกี่ยวกับคำถามที่ถามมา ไม่อนุญาตให้ละศีลอด
ละศีลอดเนื่องจากความกระหายและหิว
77. บุคคลหนึ่งถือศีลอดเดือนรอมฎอนเสมอ แต่มีอยู่วันหนึ่งไม่ได้ตื่นขึ้นรับประทานอาหารตอนเช้า ด้วยเหตุนี้ จึงไม่สามารถถือศีลอด ต่อไปจนถึงพระอาทิตย์ตกดินได้ และในตอนกลางวัน ได้เกิดเหตุการณ์หนึ่งกับเขา เป็นเหตุทำให้ต้องละศีลอด ดังนั้น เป็นวาญิบต้องจ่ายกะฟาเราะฮฺด้วยหรือไม่?
คำตอบ ถ้าถือศีลอดต่อไป ซึ่งผลของความหิวกระหายจากการถือศีลอด ได้สร้างความลำบากแก่เขาอย่างยิ่ง และในที่สุดเขาได้ละศีลอด เป็นวาญิบให้กะฎอเพียงอย่างเดียว ไม่ต้องจ่ายฟะกาเราะฮฺ
รับประทานอาหาร (สะฮัร หมายถึง เวลาเช้าตรู่ก่อนอะซานซุบฮฺ ผู้ถือศีลอดจะตืนขึ้นมาในช่วงนั้น รับประทานอาหารก่อนอะซานซุบฮฺ เพื่อถือศีลอด ซึ่งนิยมเรียกกันทั่วไปว่า กินสะฮัร) หลังอะซานซุบฮฺ
78.ในเดือนรอมฎอนพวกเราตื่นขึ้นตอนสะฮัร เพื่อรับประทานอาหาร หลังจากนั้นรู้ว่าอะซานซุบฮฺผ่านไปแล้ว ศีลอดเป็นที่ยอมรับหรือไม่ หรือว่าต้องกะฎอศีลอดวันนั้น?
คำตอบ ถ้าสอบถามแล้ว หรือรู้ว่ายังไม่ถึงเวลาซุบฮฺ จึงรับประทาน ต่อมารู้ว่าเป็นเวลาซุบฮฺ ศีลอดถูกต้อง และไม่ต้องกะฎอ
79. เนื่องจากในปัจจุบัน การจัดระบบงานในแต่ละวัน จะอาศัยนาฬิกาเป็นหลัก และตามเมืองต่างๆ เนื่องจากมีอาคารสูงอยู่มากมาย ทำให้เป็นไปไม่ได้ที่จะมองเห็นแสงเงินจับขอบฟ้า กรณีนี้ถ้าบุคคลหนึ่งมั่นใจกับนาฬิกาของตน ซึ่งบ่งบอกว่าเป็นเวลา 04.00 นาฬิกา เขาจึงรับประทานอาหาร ต่อมารู้ว่าถ่านนาฬิกาหมด และตามความเป็นจริงตอนนั้นก็เป็นเวลา 04.15 นาฬิกา ดังนั้น ศีลอดของบุคคลเช่นนี้จะถูกต้องหรือไม่?
ทำนองเดียวกันบุคคลที่มีสายตาคาดเคลื่อน มองเวลา 05.00 นาฬิกา แล้วคิดว่าเป็นเวลา 04.00 นาฬิกา เขาจึงรับประทานอาหาร ต่อมารู้ว่าผิดพลาด และรู้ว่ารับประทานอาหารหลังเวลาซุบฮฺ?
คำตอบ ทั้งสองกรณี ถ้ามั่นใจกับนาฬิกา และเชื่อว่าเวลากลางคืนยังคงเหลืออยู่ ต่อมาพบว่าขัดแย้งกัน ศีลอดของเขาในเดือนรอมฎอน ถูกต้อง
80. ขณะที่กำลังรับประทานอาหาร ถ้ารู้ว่าเป็นเวลาซุบฮฺ จะต้องทำอย่างไร?
คำตอบ จะต้องคายอาหารออก ถ้าตั้งใจกลืนเข้าไป ศีลอดบาฏิล
กฎของเศษอาหารจากกระเพาะเข้าสู่ปากขณะถือศีลอด
81. บางครั้งคนเราเรอ หมายถึงเศษอาหารที่มีรสเปรี้ยว ย้อนออกจากกระเพาะ เข้าไปในปาก ดังนั้น ถ้าผู้ถือศีลอดเรอ แล้วบังเอิญ หรือตั้งใจกลืนเข้าไป ศีลอดของเขาจะมีกฏเป็นอย่างไร?
คำตอบ หลังจากเศษอาหารได้เข้าปากแล้ว ตั้งใจหรือเจตนากลืนเข้าไป ศีลอดบาฏิล แต่ถ้าบังเอิญ ศีลอดไม่บาฏิล

การกลืนเสมหะขณะถือศีลอด
82. ขณะป่วยเป็นไข้หวัด มีเสมหะออกมารวมอยู่ในปาก และแทนที่จะบ้วนทิ้ง กับคืนเข้าไป ศีลอดของข้าพเจ้าถูกต้องหรือไม่? บางวันของเดือนรอมฎอน ข้าพเจ้าอยู่ที่บ้านของญาติ แต่เนื่องจากเป็นไข้หวัด อาย และมีความละอายใจ ข้าพเจ้าจึงตะยะมุมกับฝุ่น แทนการฆุสลฺวาญิบ และไม่ได้ฆุสลฺจนกระทั่งเกือบอะซานซุฮรฺ ซึ่งข้าพเจ้าทำซ้ำกันอยู่สองสามวัน ศีลอดของข้าพเจ้าในวันเหล่านั้นถูกต้องหรือไม่?
คำตอบ การกลืมเสมหะเข้าไป ไม่ทำให้ศีลอดบาฏิล แต่ถ้าออกมาพ้นลำคอ เป็นอิฮฺติยาฏวาญิบห้ามกลืน ส่วนการไม่ได้ฆุสลฺญินาบัต ในวันที่ต้องการถือศีลอด จนกระทั่งก่อนอะซานซุบฮฺ และตะยัมมุมแทนการฆุสลฺ ถ้าเป็นเพราะมีเหตุทางชัรอียฺ, หรือตะยัมมุมในช่วงเวลาเหลือน้อย ไม่ทำให้ศีลอดบาฏิล ศีลอดของท่านที่ถือด้วยการตะยัมมุม ถูกต้อง แต่กรณีอื่นที่นอกเหนือจากนี้ ศีลอดของท่านในวันเหล่านั้น บาฏิล
การกลืนเศษอาหารที่ติดตามซอกฟัน
83. ข้าพเจ้าถือศีลอดในเดือนรอมฎอน แต่มีอยู่วันหนึ่งไม่ได้แปรงฟัน ทำให้เศษอาหารที่ติดอยู่ตามซอกฟัน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ตั้งใจ ก็จะเข้าไปเอง ดังนั้น การกะฎอศีลอดวันดังกล่าว เป็นวาญิบสำหรับข้าพเจ้าหรือไม่?
คำตอบ ถ้าไม่รู้ว่ามีเศษอาหารติดอยู่ตามซอกฟัน หรือไม่รู้ว่าเศษอาหารจะเข้าไปถึงลำคอ และได้กลืนเข้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจ หรือไม่รู้ตัว ไม่เป็นวาญิบต้องกะฎอศีลอด
การทำความสะอาดฟัน
84. การทำความสะอาดฟัน หลังจากรับประทานอาหาร สำหรับบุคคลที่ตั้งใจว่าพรุ่งนี้จะถือศีลอด มีกฏว่าอย่างไร?
คำตอบ ไม่เป็นวาญิบ ต้องทำความสะอาดฟัน สำหรับบุคคลที่ตั้งใจว่าจะถือศีลอด ถึงแม้จะคาดว่า การไม่ทำความสะอาดฟัน จะทำให้เศษอาหารที่ติดอยู่ตามซอกฟันเข้าไปในลำคอ และถ้าหลังจากนั้นเศษอาหารได้เข้าไปจริงโดยบังเอิญ ศีลอดไม่บาฏิล, ใช่ ถ้ามั่นใจว่าการไม่ทำความสะอาดฟัน จะทำให้เศษอาหารเข้าไป เป็นวาญิบ ต้องทำความสะอาดฟัน แต่ถ้าไม่ทำความสะอาดและเศษอาหารได้เข้าไปจริง (อิฮฺติยาฏวาญิบ) ศีลอดบาฏิล
การแปรงฟันด้วยยาสีฟัน
85. การแปรงฟันด้วยยาสีฟัน ขณะถือศีลอดจะเป็นไรไหม?
การใช้เชือกขัดฟัน
คำตอบ ไม่เป็นไร แต่ต้องป้องกันไม่ให้น้ำลาย ที่ผสมกันระหว่างยาสีฟันกับน้ำ เข้าไป
86. กฏการใช้เชือกขัดฟัน – ที่มีฟูออไลน์ และมีรสสะระแหน่ผสมอยู่- ขณะถือศีลอด เป็นอย่างไร?
คำตอบ ถ้าไม่กลืนน้ำลายลงไป ไม่เป็นไร

การเคี้ยวหมากฝรั่งและดูดกันดุร
(กันดุร พืชชนิดหนึ่งที่เป็นโอสถบำบัด นำมาเคี่ยวสกัดจนเป็นก้อนแข็ง มีรสชาติขมมาก นิยมให้หญิงตั้งครรภ์ช่วงใกล้คลอด เคี้ยวกันดุรดูดน้ำ จะมีผลต่อสติปัญญาของทารกในครรค์ ให้มีความจำดี)
87. การเคี้ยวหมากฝรั่ง และดูดกันดุร สำหรับผู้ถือศีลอด กฏเกณฑ์เป็นอย่างไร?
คำตอบ ถ้าหากไม่มีสิ่งใดเข้าไปถึงลำคอ ไม่เป็นไร ส่วนการดูดกันดุร ศีลอดบาฏิล
การบาฏิลศีลอด เนื่องจากคำขอร้องของคนอื่น
88. ถ้าข้าพเจ้าถือศีลอด แล้วมารดาได้อ้อนวอนให้รับประทานอาหาร หรือดื่ม ศีลอดบาฏิลหรือไม่?
คำตอบ การกินและการดื่มคือ สาเหตุที่ทำให้ศีลอดบาฏิล แม้ว่าจะเป็นผลมาจากการอ้อนวอนขอร้อง จากบุคคลอื่นก็ตาม
การกระทำสิ่งที่เป็นสาเหตุให้ศีลอดบาฏิล โดยการบังคับของคนอื่น
89. ถ้าบังคับให้นำเอาบางสิ่งใส่ปากผู้ถือศีลอด หรือจับศีรษะกดน้ำ ศีลอดของเขาบาฏิลหรือไม่? และกรณีที่บังคับให้ผู้ถือศีลอด ละศีลอด เช่น บอกว่า ถ้าไม่ละศีลอด จะทำอันตรายต่อร่างกาย หรือทำลายทรัพย์สิน เพื่อเป็นการปกป้องอันตรายที่จะเกิดขึ้น เขาได้รับประทานอาหาร ดังนั้น ศีลอดของเขาบาฏิลหรือไม่?
คำตอบ ผู้ถือศีลอด ที่ถูกนำเอาบางสิ่งใส่ปากเข้าไปจนถึงลำคอ โดยที่ไม่ได้ตั้งใจ หรือถูกจับกดน้ำ จนศีรษะจมอยู่ใต้น้ำทั้งหมด ศีลอดไม่บาฏิล แต่ถ้าเขาละศีลอดเพราะเป็นผลมาจาก การบังคับของคนอื่น ศีลอดบาฏิล

กฎการละศีลอดเนื่องจากลืม
90. ผู้ที่ถือศีลอดได้กินหรือดื่มบางอย่าง เพราะลืม วาญิบต้องบอกให้เขารู้ตัวหรือไม่?
คำตอบ ไม่เป็นวาญิบ ต้องบอกให้เขารู้ตัว
จำเป็นต้องดื่มน้ำ สำหรับนักบิน และพนักงานต้อนรับที่ถือศีลอด
91. ถ้าหากเครื่องบิน ต้องบินด้วยความสูงและมีระยะทางที่ยาวไกล ซึ่งต้องใช้เวลาบินประมาณ 2.30- 3.00 ชั่วโมง ซึ่งนักบินและพนักงานต้อนรับ ต้องดื่มน้ำทุกๆ 20 นาที เพื่อปรับความสมดุลของร่างกาย ในกรณีนี้ถ้าเป็นเดือนรอมฎอน กะฟาเราะฮฺและกะฎอศีลอด เป็นวาญิบสำหรับพวกเขาหรือไม่?
คำตอบ ถ้าหากศีลอดเป็นอันตรายสำหรับพวกเขา อนุญาตให้ดื่มน้ำละศีลอดได้ แต่ต้องกะฎอศีลอดในภายหลัง และไม่เป็นวาญิบต้องจ่ายกะฟาเราะฮฺ
การกลั้วคอและบ้วนปากด้วยน้ำ ขณะถือศีลอด
92. ถ้าผู้ถือศีลอดมีเจตนาที่จะดับกระหาย ด้วยการเอาน้ำกลั้วคอ แล้วบ้วนออก โดยที่ไม่มีน้ำแม้เพียงเล็กน้อยเข้าไป กรณีนี้กฏเกณฑ์เป็นอย่างไร?
คำตอบ ตามสมมติฐานของคำถาม ไม่เป็นไร
93. หลังจากกลั้วคอ – ไม่ว่าจะทำเพื่อวุฎูอฺ หรือเพื่ออย่างอื่น- ขณะที่เขาถือศีลอดเดือนรอมฎอน เป็นวาญิบสำหรับผู้ถือศีลอด ต้องบ้วนน้ำลายทิ้ง 3 ครั้งหรือไม่?
คำตอบ ไม่เป็นวาญิบ ต้องทำเช่นนั้น สิ่งที่เป็นวาญิบคือ การบ้วนน้ำออกจากปาก และถ้ามั่นใจว่าน้ำออกหมดแล้ว ไม่มีสิ่งใดเป็นวาญิบสำหรับเขาอีก
94. กฎของการบ้วนปากสำหรับผู้ถือศีลอด เป็นอย่างไร?
คำตอบ ถ้าขณะบ้วนปาก น้ำจากลำคอได้ไหลลงไปด้านล่าง ศีลอดบาฏิล
การเอาลิ้นออกนอกปาก ขณะถือศีลอด
95. การบ้วนน้ำลาย และนำกลับเข้าไปอีกครั้ง เป็นสาเหตุทำให้ศีลอดบาฏิล และการเอาลิ้นออกมานอกปาก อยู่ในกฎเดียวกันหรือ เช่น ถ้าบุคคลหนึ่งได้เอาลิ้นออกมาข้างนอกปาก จะด้วยเหตุผลอันใดก็ตาม เป็นสาเหตุให้ศีลอดบาฏิลหรือไม่?
คำตอบ การกระทำเพียงเท่านั้น ไม่ทำให้ศีลอดบาฏิล
มีความรู้สึกเหมือนมีน้ำตาลอยู่ในปาก ขณะถือศีลอด
96. ในเดือนรอมฎอนได้เดินทางไปดูโรงงานผลิตน้ำตาล แล้วมีความรู้สึกว่า เหมือนมีน้ำตาลอยู่ในปาก ศีลอดของเราบาฏิลหรือไม่?
คำตอบ เพียงแค่รู้สึกว่ามีน้ำตาลอยู่ในปาก หรือแม้แต่มีน้ำตาลในปากจริง แต่ไม่ได้กลืนลงไป ไม่ทำให้ศีลอดบาฏิล

การร่วมเพศ
การมีสัมพันธ์ทางเพศ ขณะถือศีลอด
97. ชายที่ไม่สามารถถือศีลอดได้ สามารถร่วมเพศกับภรรยาที่ศีลอดได้หรือไม่?
คำตอบ ไม่ได้ ถือว่าไม่อนุญาต
หยอกล้อเล่นกับภรรยา ขณะถือศีลอด
98. ถ้าชายหยอกล้อกับภรรยา ขณะถือศีลอดเดือนรอมฎอน จะมีผลเสียต่อศีลอดของเขาหรือไม่?
คำตอบ ถ้าไม่มีผลทำให้น้ำอสุจิเคลื่อนออกมา ไม่มีผลกระทบต่อศีลอดแต่อย่างใด
ทั้งคู่มีเพศสัมพันธ์ ขณะถือศีลอด
99. ถ้าหากสามีและภรรยา ทำการร่วมเพศกันในเดือนรอมฎอน ซึ่งภรรยาก็ยินยอมที่จะกระทำ กรณีนี้ กฎเกณฑ์เป็นอย่างไร?
คำตอบ ทั้งสองคนอยู่ในกฏที่ว่าด้วย การละศีลอดโดยตั้งใจ ซึ่งนอกจากทั้งสองต้องกะฎอแล้ว เป็นวาญิบต้องกะฟาเราะฮฺศีลอดด้วย
การมีเพศสัมพันธ์ เนื่องจากลืม
100. ถ้าผู้ถือศีลอด ลืมไปว่ากำลังถือศีลอด ได้ทำการร่วมเพศ การกระทำนั้น จะมีผลเสียกับศีลอดหรือไม่?
คำตอบ ถ้าลืมไปว่ากำลังถือศีลอด ได้ทำการร่วมเพศ ศีลอดไม่บาฏิล แต่ถ้าขณะที่ทำการร่วมเพศนึกขึ้นได้ จะต้องหยุดการร่วมเพศทันที ถ้าไม่หยุด ศีลอดบาฏิล